วันจันทร์ที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2553

SARAPEE CHANGE

จากแนวคิดของ ผอก.รพ.ที่นำมาจากกระแสความคิดเปลี่ยนแปลงประเทศไทย หรือ Thailand change โดยการให้แต่ละหน่วยงานไปคุยกันว่าปัญหาของหน่วยงานเราเป็นอย่างไร และอะไรคือปัญหาที่ต้องแก้ไขเร่งด่วน 1 ปัญหา เพื่อที่จะได้นำไปเสนอในหน่วยงานอื่นอีก 5 หน่วยงาน แล้วเลือกปัญหาที่สำคัญเรียงตามลำดับความสำคัญใน 5 หน่วยงานมานำเสนอต่อ กกบ. พอได้นโยบายเลยมานั่งคุยกันปุ๊บแบบสุนทรียสนทนา สรุปปัญหาที่สำคัญคือ การขาดแคลนบุคลากรในหน่วยงานเรา เริ่มจากเคที่ป้าๆแม่ๆคาดหวังว่าจะช่วยเรื่องลงข้อมูลในคอมพิวเตอร์ให้สมบูรณ์มากกว่านี้ แต่เคให้เหตุผลว่า ต้องดูแลงาน IC เปลี่ยนผ้าปูที่นอน ทำความสะอาดของเครื่องใช้ ดูแลของ supply ให้บริการคัดกรองผู้ป่วยอีกทั้งยังต้องคัดกรองสุรา สุขภาพจิต ทำให้ใช้เวลาในการทำงานมาก บางครั้งต้องไปติดต่อเทศบาลให้อีก นอกจากนั้นคอมพิวเตอร์ก็ยังมีปัญหา ติดๆขัดๆ ส่งซ่อมเฉลี่ยเดือนละ 2 ครั้ง จึงทำให้การลงข้อมูลทำได้ไม่เต็มที่ แม่น้อยก็ช่วยในเรื่องข้อมูลได้ไม่เต็มที่เหมือนกัน เนื่องจากต้องรับงานทำบัตรทอง ช่วยวางแผนครอบครัวตามหน้าที่ลูกจ้างอนามัยแล้วต้องช่วยลงคอมงานวางแผนครอบครัวอีก งานสารบรรณรับ-ส่งหนังสือเข้าออก งานพัสดุ เป็นกรรมการนั่นนี่ประชุมอีกบางวาระ ครั้งจะลงข้อมูลเชิงลึกก็มีปัญหาอีก "อิปี้ต๋าบ่ดี บ่ใคร่เข้าใจ๋โปรแกรมแฮ๋ม ถ้าเป็น cm_pop อย่างตะก่อน อิปี้สู้ต๋าย" แม่ต้อยก็รับงานด้านบริการอีกรอบด้าน งานตรวจรักษา งาน อสม. งานวิชาการบางส่วน "ต้อยก่ใคร่ก๊านแล้วหนา..." น้ำตาพาลจะไหลตามประสาผู้มีจิตใจอ่อนไหว ป้าติ๊กน่ะหรือ ก็แบกรับเต็มที่เหมือนกัน ทั้งงานบริหาร บริการ วิชาการ แผนงานโครงการ ล้างหนี้ "โอย..อิป้าก่บ่ไคร่ไหวเหมือนกั๋นเนาะ" สรุปว่า "ขอคนมาช่วยสักสองคนเต๊อะ คนลงข้อมูลกับพยาบาลแฮ๋มคนเนาะ"

จุดอื่นเขาเพิ่มคนขยายงานกัน แต่ PCU ขอแค่คนมาช่วยตรึงอัตรากำลังให้ทำงานได้สมศักดิ์ศรี PCU ของโรงพยาบาลหน่อยก็จะเป็นอนิสงค์ผลบุญให้แก่ประชาชนตำบลสารภี เพราะอยู่ในเขตรับผิดชอบของโรงพยาบาลเสียเปล่า แต่ได้รับบริการสู้คนตำบลอื่นที่อยู่นอกเขตรับผิดชอบโรงพยาบาลก็ไม่ได้ ปัญหานี้ใครจะช่วยได้หนอ คนตำบลสารภีไม่คิดอะไรบ้างหรือคะ หรือคิดแค่อยากได้แค่การรักษา ไม่ต้องสร้างเสริมสุขภาพ ไม่ต้องป้องกันโรค ไม่คำนึงถึงภาวะสุขภาพที่ดีเลยหรืออย่างไร

ที่ประชุมลงมติให้น้องต้อยไปนำเสนอปัญหา เพื่อขอความเห็นใจแก้ไขปัญหาอย่างรีบด่วน โดยเฉพาะน้องต้อยเธอมีความสามารถพิเศษในการสร้างความเอ็นดูสงสารเนื่องจากต่อมน้ำตาเธอจะอยู่ตื้นมากๆ พูดๆอยู่ เธอก็สามารถเรียกหยาดน้ำเป็นฝนพร่างพรูลงมาได้อย่างน่าอัศจรรย์ใจ 5 หน่วยงานไหนที่ได้รับฟังเธอเป็นครั้งแรก ให้เตรียมทิชชูหรือผ้าเช็ดหน้าไว้ด้วย

"เราเตือนท่านแล้ว...ขอบอกกก"



3 ความคิดเห็น:

  1. ไม่ระบุชื่อ5 ตุลาคม 2553 เวลา 09:55

    ได้อ่านแล้ว น้ำตาคลอ(ซึ้งใจน่ะ) งานหนักไม่ว่า ขอแค่มีกำลังใจให้กัน

    ตอบลบ
  2. ขอขยายความอีกหน่อยค่ะ รีบเขียน อ่านดูเหมือนจะไม่ค่อยเข้าใจ คือหน่วยงานของโรงพยาบาลสารภีมีอยู่ 25 หน่วยงาน ก็ต้องจัดกลุ่มกันกลุ่มละ 5 หน่วยงาน แล้วนำเสนอปัญหาของหน่วยงานในกลุ่มก่อน จากนั้นก็เคลื่อนตัวไปกลุ่มอื่นๆต่อไปเพื่อรับฟังปัญหาของกลุ่มอื่นด้วยอีก 4 กลุ่ม (บวกของตัวเองเป็น5 กลุ่ม) เหมือน world cafe'เราจะทำกันสองครั้งก็จะทราบปัญหาของทุกหน่วยงานแล้วนำเสนอต่อ กกบ.ค่ะ คาดว่า กระบวนการนี้จะใช้เวลาประมาณ 1 เดือน โดยคุณหมอกุ้งเจ้าแม่ KM ของ รพ.เป็น moderator PCU รีบทำก็มีการคุยกันอยู่เรื่อยๆเพื่อตกผลึกว่า เอาจริงแล้วหรือ อันนี้คือปัญหาของเราแน่นะ ไปๆมาๆคุณเคก็บอกว่า " เฮามีกั๋น 3-4 คน ก่ม่วนแล้วเนาะแม่เนาะ" แม่น้อยอาจม่วน อิป้าติ๊กบ่ม่วนโตย (โว้ย)............

    ตอบลบ
  3. ไม่ระบุชื่อ6 ตุลาคม 2553 เวลา 19:23

    พวกเราPCUสารภี ก็มานั่งคุยกันถึงปัญหาที่เรากำลังประสบ จริงๆแล้วคือปัญหาอะไรกันแน่ ต้องคุยกันหลายๆรอบเพื่อจะได้ปัญหาของพวกเราทุกคน ที่เป็นปัญหาสำคัญ 1 ปัญหาที่ต้องการการแก้ไขอย่างรีบด่วนที่สุด ก่อนที่Burn out

    ตอบลบ